ปัจจุบันมีข้อถกเถียงมากมายว่า ควรจะเลี้ยงสัตว์เลี้ยงในบ้านที่มีเด็กไหม สัตว์เลี้ยงอะไรและเลี้ยงเมื่อไหร่จึงจะดี (หรือไม่ดี) จริงๆยังไม่มีข้อสรุปที่แน่ชัด แต่หากครอบครัวใดเลี้ยงสัตว์อยู่แล้ว และกำลังมีเจ้าตัวเล็กของเราลืมตาดูโลกในระยะเวลาอันใกล้นี้ ก็ควรวางแผนการดูแล และรักษาความสะอาดไว้แต่เนิ่นๆ เพื่อความสะอาดและสุขอนามัยของทุกคนในครอบครัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจ้าตัวเล็กที่ภูมิต้านทานยังไม่แข็งแรงนักนะครับ คุณแม่ตั้งครรภ์ที่ต้องการดูแลสัตว์เลี้ยงต้องทำยังไง มาดูกันเลย พาสัตว์เลี้ยงไปพบสัตวแพทย์ เพื่อตรวจให้มั่นใจว่าไม่เป็นพาหะของโรค เช่น แมวจะเป็นพาหะนำเชื้อโรคท็อกโซพลาสดมซิสมาสู่คน ที่อาจเกิดการติดเชื้อและอาจมีอันตรายต่อทารกในครรภ์ได้ รวมถึงฉีควัคซีนตามคำแนะนำของสัตวแพทย์ ซึ่งจะขึ้นอยู่กับอายุ และภูมิคุ้มกันที่ได้รับถ่ายทอดมาตั้งแต่เกิด ประวัติการรับวัคซีน ประวัติการแพ้วัคซีน และสุขภาพของสัตว์เลี้ยงเอง ความสะอาดสำคัญอย่างยิ่ง เมื่อจับสัตว์เลี้ยงเสร็จ คุณแม่ต้องล้างมือทุกครั้ง นั่นเพราะน้ำลายของสัตว์เลี้ยงอาจมีเชื้อโรคปะปนอยู่ หรืออาจจะสวมถุงมือทุกครั้งเมื่อจับสัตว์เลี้ยง เด็กอายุเท่าไหร่ถึงมีสัตว์เลี้ยงได้ อายุเท่าไหร่ก็เลี้ยงได้ครับ แต่ถ้าเด็กอายุน้อยๆ ก็ต้องดูแลเป็นพิเศษ รักษาความสะอาด ฉีดวัคซีนให้ครบทั้งเด็กและสัตว์เลี้ยงนะครับ

การเริ่มหัดเดินของลูกน้อย คุณพ่อคุณแม่หลายๆท่านมักจะถามว่า ลูกจะเดินได้ตอนไหนนะ? เด็กส่วนมากจะเริ่มก้าวเดินประมาณช่วงอายุ 9-10 เดือน แต่เด็กบางคนก็ช้ากว่านั้นแต่ไม่ควรเกิน 1 ขวบ 6 เดือน “ตั้งไข่ล้ม ต้มไข่กิน” มักจะพูดกันตอนที่ลูกอายุได้ 7- 9 เดือน เพราะลูกกำลังจะหัดนั่ง หัดยืน หัดเดิน คุณพ่อคุณแม่ก็ตบมือให้จังหวะ ลุ้นให้ลูกลุกขึ้นนั่ง ขึ้นยืน โดยการเกาะสิ่งของต่าง ๆ เช่น โต๊ะ โซฟา เก้าอี้ เด็กแต่ละคนเดินช้าเร็วต่างกันขึ้นอยู่กับการเลี้ยงดูและสิ่งแวดล้อมรอบตัวเด็กด้วย เด็กบางคนจะสามารถยืนได้คล่องยืนได้ทีละนาน ๆ แต่ไม่ยอมก้าวเดินซักที สาเหตุสำคัญที่ไม่กล้าเดินคือความกลัวนั่นเองครับ โดยเฉพาะการเดินก้าวแรกของลูก